หลายๆคนที่ชื่นชอบอยุธยา มา เที่ยวอยุธยา บ่อยๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าอยากจะหาที่ท่องเที่ยวที่นอกเหนือจากวัดดูบ้าง และในวันนี้แอดมินขออาสาพาเพื่อนๆไปรู้จักกับสถานที่ เที่ยวอยุธยา ที่นอกเหนือจากวัดดูบ้างค่ะ ว่ามีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ไปกันเลยค่ะ
1.Papa Sam ฟาร์มเมล่อน
ฟาร์มเมล่อนเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่เริ่มมีให้เห็นในหลายจังหวัด เมืองเก่าอยุธยาก็ไม่น้อยหน้ามีกับเค้าด้วยเหมือนกัน และวันนี้เราจะมาแนะนำฟาร์มเมล่อน ที่อำเภอบางไทรกันค่ะ Papa Sam ฟาร์มเมล่อนนี้ตั้งอยู่ที่อำเภอบางไทร จังหวัดอยุธยาค่ะ
ภายในฟาร์มจะเต็มไปด้วยโรงปลูกเมล่อนมากมาย ลูกนี่ดกมากๆค่ะ มีกันทุกต้นเลย แค่เห็นก็อดตื่นเต้น อยากชิมรสหวานๆของเมล่อนกันแล้วนะคะ ที่นี่สามารถซื้อกลับบ้านได้เลยนะคะ โดยติดต่อเจ้าหน้าที่ภายในฟาร์มนั่นเองค่ะ
ที่ Papa Sam นี้ไม่ได้มีเพียงแค่เมล่อนที่น่าสนใจนะคะ ที่นี่ยังมีฟาร์มกระต่ายน้อย แสนน่ารักให้เราได้นั่งชม นั่งเล่นอีกด้วยค่ะ
เห็นไหมคะว่ามาที่ Papa sam ฟาร์มเมล่อนนั้นเรียกได้ว่ามาที่เดียวครบได้ทั้งของกิน ได้ทั้งบรรยากาศสีเขียวๆที่ดูแล้วสบายตา สบายใจ แถมอิ่มท้องด้วยนะคะ
ข้อมูลติดต่อ : 091-784 2345 / 083-445 5000
แฟนเพจ : https://www.facebook.com/papasammelon
2.หมู่บ้านญี่ปุ่น อยุธยา
จุดเริ่มต้นของ หมู่บ้านญี่ปุ่น ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาจากชุมชนเล็กๆ ของพ่อค้าเรือสำเภาชาวญี่ปุ่น ซึ่งภายในหมู่บ้านนั้นสันนิษฐานว่ามีชาวญี่ปุ่นอยู่ 3 กลุ่มด้วยกัน คือ พ่อค้า โรนิน หรือนักรบญี่ปุ่นที่เข้ามาเป็นทหารอาสาญี่ปุ่นในอยุธยา และชาวญี่ปุ่นที่นับถือศาสนาคริสต์ เดินทางออกจากญี่ปุ่นเพื่อเสรีภาพในการนับถือศาสนา
ต่อมาได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระมหากษัตริย์พระราชทานที่ดินให้ตั้งหมู่บ้าน รอบนอกเกาะเมืองเหมือนชาติอื่นๆ โดยตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำกับชุมชนชาวโปรตุเกส ส่วนชุมชนอังกฤษและชุมชนฮอลันดา จะอยู่ทางด้านทิศเหนือของหมู่บ้าน คั่นด้วยคลองเล็กๆ และในสมัยนั้นจะมีหัวหน้าปกครองในกลุ่มตนเอง ซึ่งก็คือ นากามาซา ยามาดา เป็นผู้มีอำนาจและเป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม มีบทบาทในการเชื่อมสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยและญี่ปุ่น จนได้รับแต่งตั้งเป็นออกญาเสนาภิมุข ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช จนสิ้นชีวิต จากนั้นไม่นานหมู่บ้านญี่ปุ่นก็ถูกเผาทำลาย
ปัจจุบันนี้ที่ตั้ง หมู่บ้านญี่ปุ่น (Japanese Village) ก็ยังตั้งอยู่ในที่ตั้งเดิมเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยา ในตำบลเกาะเรียน อำเภอสำเภอล่ม จังหวัดอยุธยา เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา จัดตั้งขึ้นโดย สมาคมไทย – ญี่ปุ่น ร่วมมือกับ นักวิชาการไทย และนักวิชาการญี่ปุ่น เพื่อรำลึกถึงชาวญี่ปุ่นผู้มีบทบาทสำคัญ และมีความจงรักภักดีต่อราชสำนักสมัยกรุงศรีอยุธยา อีกทั้งเพื่อให้เป็นอนุสรณ์แห่งหมู่บ้านญี่ปุ่นเดิมด้วย
อีกมุมหนึ่งก็มีเรื่องราวและหุ่นขี้ผึ้งของ ท้าวทองกีบม้า (มารี ดอญา กีมาร์ เดอ ปีนา) ซึ่งเป็นชาวอยุธยาลูกครึ่งเชื้อสายโปรตุเกส-ญี่ปุ่น อาศัยอยู่ในหมู่บ้านโปรตุเกส ได้สมรสกับ คอนสแตนติน ฟอลคอน หรือ ออกญาวิชาเยนทร์ เสนาบดีกรมท่าในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กระทั่งในช่วงปลายของชีวิต เธอเข้ารับราชการจนได้ตำแหน่งท้าวทองกีบม้า หัวหน้าพนักงานวิเสทกลาง (ครัว) ดูแลของหวานแบบเทศ และนำของหวานโปรตุเกสมาเผยแพร่ในกรุงสยาม เป็นต้นตำรับขนมตระกูลทอง อย่างทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทองนั่นเอง
ค่าเข้าชม : คนไทย 50 บาท / นักเรียน 20 บาท
ที่ตั้ง : หมู่บ้านญี่ปุ่น ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดทำการทุกวัน 08.30-16.30 น.
3.พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ที่ตำบลประตูชัย ถนนปรีดีพนมยงค์ ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรโบราณวัตถุที่พบจากกรุพระปรางค์ วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2500
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา นับเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ แห่งแรกของไทยที่มีรูปแบบการจัดแสดงแบบใหม่คือ นำโบราณวัตถุมาจัดแสดงจำนวนไม่มากจนเกินไปและใช้แสงสีมาทำให้การนำเสนอดูน่าสนใจ
ที่นี่มีการจัดโซนแสดงอยู่หลายโซนค่ะ ทั้งห้องเครื่องทอง อาคารเรือนไทย คือแอดแนะนำเลยค่ะว่าถ้าอยากรู้จักอยุธยาให้มากขึ้น ต้องมาที่นี่แหละค่ะ พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา
พิพิธภัณฑสถาน เจ้าสามพระยา ถ.ปรีดีพนมยงค์ ต.ประตูชัย จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดทุกวันพุธ – วันอาทิตย์ เวลา 9.00 – 16.00 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 0-3524-1587
และนี่ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอยุธยา ที่ไม่ใช่วัดเพียงแค่สามสถานที่เท่านั้นเองนะคะ จริงๆยังมีอีกมากมาย แต่แอดมินขออุบไว้ก่อนค่ะ เดี๋ยวบทความหน้าแอดมินจะพาเที่ยวอีกหลายที่เลยนะคะ