สวัสดีค่ะ วันนี้แอดมินจะพาไป แนะนำที่เที่ยว แบบออกนอกเมืองกันสักหน่อยค่ะ ซึ่งวันนี้แอดจะพาไปไหว้พระขอพรที่วัดดังย่านอำเภอเสนากันค่ะ วัดนี้มีชื่อว่า “วัดหน้าต่างนอก” ที่เรียกแบบนี้เพราะตรงจุดนั้นมีวัดหน้าต่าง 2 ที่ค่ะ แต่จะแตกต่างกันตรงที่เรียกว่า “นอก” กับ “ใน” เท่านั้นเองค่ะ ซึ่งตัววัดทั้งสองนี้ก็ตั้งอยู่คนละฝั่งถนนเท่านั้นเองค่ะ
การเดินทางไปยัง “วัดหน้าต่างนอก” นั้น เราต้องขับรถออกจากตัวเมือง ไปทางถนนเส้นเสนา – สุพรรณบุรี นะคะ หรือถ้าจะไปรถโดยสารก็สามารถขึ้นรถตู้สายเสนา สายสุพรรณจะผ่านทั้งหมดค่ะ แต่ถ้ามาจากรุงเทพสามารถขึ้นรถตู้เสนา ผักไห่ ได้ที่หมอชิตเลยค่ะ รถที่มาเสนาทุกคันจะต้องผ่านวัดแห่งนี้ทั้งหมดค่ะ
เรามาดูกันนะคะว่าวัดนี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไรบ้าง พระครูสมบูรณ์จริยธรรม (พระอาจารย์แม้น อาจารสมฺปนฺโน) เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันได้เล่าถึงประวัติของวัดพอสังเขปว่า ท่านได้ฟังมาจากคำบอกเล่าของหลวงพ่อสังข์ วัดน้ำเต้า เจ้าคณะอำเภอบางบาล
หลวงพ่อไวทย์ วัดบรมวงศ์ อดีตเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธ์กบเจา อำเภอบางบาล หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้วเจ้าคณะอำเภอบางไทรถึงประวัติของวัดหน้าต่างนอกอย่าง ตรงต่อกันว่า วัดนี้ได้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปลายกรุงศรีอยุธยาเมื่อประมาณปีพ.ศ.2300 ซึ่งหลวงปู่เณรเป็นผู้ดำเนินก่อสร้างขึ้นเหตุที่ชื่อนี้ก็มีเหตุอยู่สองประเด็นด้วยกัน
ประเด็นแรก กองทัพพม่าที่ยกมาตีกรุงศรีอยุธยา ได้ตั้งค่ายใกล้กับสะพานสีกุก ทางกองทัพกรุงศรีอยุธยาก็ได้ให้ทหารหน่วยสอดแนมสอดส่องดูว่า ข้าศึกจะขยับเขยื้อนไปทางไหน โดยให้ดูด้วยการเปิดหน้าต่าง หน้าต่างใน หมายถึง ใกล้ชายแม่น้ำน้อย ก็คือที่ตั้งวัดหน้าต่างใน หน้าต่างนอก หมายถึง ทางนอกทุ่งก็คือที่ตั้งวัดหน้าต่างนอก
ประเด็นที่สอง ในสมัยโบราณนั้น พระสงฆ์ท่านเคร่งครัดในทางปฏิบัติพระกัมมัฏฐาน และได้มีการกล่าวเอาไว้ว่า เดิมทีตรงวัดหน้าต่างนอกเป็นสถานที่ปฎิบัติธรรมของพระสงฆ์วัดหน้าต่างใน ต่อมาหลวงปู่เณรได้สร้างเป็นขึ้นอาจจะตั้งชื่อวัดโดยอรรถโดยธธธรรมก็ได้เช่น วัดหน้าต่างนอกท่านหมายเอา อายตนะภายใน คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจเมื่อหลวงปู่เณรได้มรณภาพไปแล้ว ทางคณะสงฆ์ คณะอุบาสกอุบาสิกา ได้อาราธนาหลวงปู่เอี่ยมขึ้นมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสแทนหลวงปู่เณรสืบมา ปฎิปทาของหลวงปู่เอี่ยมเป็นที่เลื่องลือกันมากในสมัยนั้นท่านเป็นพระปฏิบัติในด้านพระกัมมัฎฐานน้ำมนต์ของท่านศักดิ์สิทธิ์มากผู้คนเลื่อมใสศรัทธาไปมาหาสู่เพื่อสักการะไม่ขาดสาย
ครั้นพอต่อมาหลวงปู่เอี่ยมท่านได้มรณภาพ สิ้นอายุขัย ทางคณะสงฆ์จึงได้อาราธนาหลวงปู่อินทร์ ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็้นเจ้าอาวาสแทนหลวงปู่เอี่ยม ต่อมาหลวงปู่อินทร์ได้ลาสิกขาบททางคณะสงฆ์ จึงได้อารธนาหลวงพ่อจง ซึ่งบวชอยู่วัดหน้าต่างใน มาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสแทน
เมื่อหลวงพ่อจงได้มาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสที่วัดแห่งนี้แล้วนั้น ท่านก็ได้บูรณะอุโบสถหลังเก่าซึ่เดิมทีเป็นเรือนไม้ แล้วก็ได้บูรณะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ตลอดทั้งวิหารซึ่งคู่กับอุโบสถนั้น แล้วก็ได้สร้างพระพุทธฉายขึ้นที่หน้าวัด ขึ้นเป็นอนุสรณ์และได้สร้างเรือหงส์ขึ้นอีกหนึ่งลำจากนั้นได้ซ่อมแซมเสนาสนะเช่น กุฏิมีสภาพทรุดโทรม ให้อยู่ในสภาพที่ดี เป็นต้นจนกระทั่งหลวงพ่อท่านอายุย่างเข้า 93 ปี กับ 10 เดือนท่านก็มาป่วยด้วยโรคอัมพาตอยู่เดือนหนึ่งแล้วท่านก็มรณภาพลงเมื่อวันจันทร์ เดือน 3 พ.ศ.2508 ทางคณะกรรมการจึงได้ทำฌาปนกิจศพหลวงพ่อจง พ.ศ.2509 จากนั้นก็ได้อาราธนาพระอาจารย์ไวยท์ ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาส และได้แต่งตั้งเมื่อพ.ศ.2510 พระอาจารย์ไวยท์ได้เป็นเจ้าอาวาสเพียง 5 เดือนก็ได้มรณภาพลง
จากนั้นก็้จึงได้อาราธนาพระอารย์พุท ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส พระอาจารย์พุทเป็นเจ้าอาวาสอยู่ได้เพียง 3 ปีราว พ.ศ.2514พระอาจารย์พุทก็ได้มรณภาพลงจากนั้นพ.ศ.2515ทางคณะกรรมการจึงได้อาราธนาพระอาจารย์แม้น หรือพระครูสมบูรณ์จริยธรรม จากวัดกลางคลองสาม อำเภอคลองหลวงจังหวัดปทุมธานี มารักษาการแทนเจ้าอาวาสเมื่อเดือนสี่ พ.ศ.2515 และเป็นเจ้าอาวาสสมาจนถึงปัจจุบันนี้
*ข้อมูล http://www.watnatangnok.com/
ประวัติคร่าวๆก็ประมาณนี้นะคะ สิ่งที่ทำให้วัดแห่งนี้น่าสนใจมากยิ่งขึ้นก็คือ ชื่อเสียงอันโด่งดังของหลวงพ่อจง ด้วยบุญ บารมีของท่านทำให้มีลูกศิษย์ที่ให้ความนับถือทั่วประเทศเลยทีเดียวค่ะ
เดี๋ยวเราไปดูบริเวณรอบๆวัดกันนะคะ ว่าที่วัดแห่งนี้มีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง มาค่ะตามแอดมินมาเลยค่า
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ รีวิว แนะนำที่เที่ยวอยุธยา ฉบับเต็มแบบไม่มีกั๊ก แอดมินถ่ายภาพมาฝากแบบเยอะมากๆเลยค่ะ หวังว่ารีวิว “แนะนำที่เที่ยวอยุธยา” บทนี้จะทำให้เพื่อนๆรู้จักอยุธยา ในมุมมองที่กว้างขึ้นนะคะ