สวัสดีค่ะวันนี้แอดมินไม่ได้มา “แนะนำที่เที่ยวอยุธยา” นะคะ แต่แอดมินจะมาเขียนเกี่ยวกับความลับหรือสิ่งที่หลายๆคนไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าที่ วัดหน้าพระเมรุ ก็มีแบบนี้ด้วย ส่วนจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้นมาค่ะตามแอดมินกันมาเลยค่ะ
ประวัติคร่าวๆของ วัดหน้าพระเมรุ นะคะ
“วัดหน้าพระเมรุราชิการาม” หรือที่รู้จักกันว่า “วัดหน้าพระเมรุ” เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตามประวัติกล่าวว่า พระองค์อินทร์ในสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 รัชกาลที่ 10 แห่งกรุงศรีอยุธยา ทรงสร้างเมื่อพ.ศ.2046 (อยุธยาตอนต้น) ประทานนามว่า วัดพระเมรุราชิการาม มีอายุกาลถึง 485 ปี
วัดหน้าพระเมรุ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์คือ พระมหาจักรพรรดิ์ได้ใช้สถานที่แห่งนี้เจรจาสงบศึกเมื่อพ.ศ.2106 และในอีกตอนหนึ่งคือ เมื่อคราวสมเด็จพระเจ้าอะลองพญามาตีกรุงศรีอยุธยา เมื่อพ.ศ.2303 พม่าได้ยกเอาปืนใหญ่มาตั้งที่วัดพระเมรุราชิการามกับวัดหัสดาวาส (วัดช้าง) พระเจ้าอะลองพญาทรงบัญชาการและทรงจุดปืนใหญ่เอง แต่ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ เมื่อพระองค์จุด ดินระเบิดเกิดระเบิดขึ้น จนทำให้ปากกระบอกปืนแตก สะเก็ดระเบิดลุกเป็นไฟ ต้องพระวรกายบาดเจ็บสาหัสประชวรหนักในวันนั้น พอรุ่งขึ้นพม่าเลิกทัพกลับไปทางเหนือ แต่ยังไม่ทันพ้นเมืองตาก พระเจ้าอะลองพญาก็สิ้นพระชนม์ระหว่างทาง
วัดหน้าพระเมรุ ความงามแห่งกรุงศรีฯที่ไม่ถูกทำลาย
ด้วยบุญญาธิการอันศักดิ์สิทธิ์แห่งหลวงพ่อพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ พระประธานในพระอุโบสถ จึงทำให้กรุงศรีอยุธยารอดพ้นจากข้าศึกมาตลอด วัดหน้าพระเมรุ จึงเป็นวหนึ่งวัดสำคัญในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ถูกพม่าทำลาย
อันนี้เป็นประวัติคร่าวๆพอเป็นความรู้ให้เพื่อนๆได้รู้ถึงที่มาที่ไปของวัดหน้าพระเมรุ นะคะ คราวนี้เรามาดูกันค่ะที่แอดบอกว่าความลับหรือสิ่งสำคัญอะไรหนอ ที่หลายๆคนมองข้ามหรืออาจจะไม่รู้มาก่อน มาค่ะมาเริ่มกันเลย
หน้าบันพระนารายณ์ทรงครุฑเหยียบเศียรนาค
หน้าบันเป็นงานฝีมือแกะสลักไม้เป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑเหยียบเศียรนาค และมีรูปราหูสองข้างติดกับเศียรนาค ล้อมรอบด้วยหมู่เทพพนม 26 องค์ ซึ่งพระนารายณ์ถือเป็นเทพที่เป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์ โดยพระองค์ทรงครุฑซึ่งเป็นสัตว์ที่มีอำนาจมากแต่ยอมรับใช้พระนารายณ์ ตามความเชื่อแล้วคือการที่มีเทพมาปกปักรักษาดูแล ซึ่งถือได้ว่าเป็นมงคลมากๆใครที่มีโอกาสได้มารอดประตูตรงจุดพระนารายณ์ทรงครุฑนี้ถือว่าเป็นการเสริมดวงค่ะ
พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ
“พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ” หรือ พระพุทธนิมิตฯ เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ที่สุดและยังเป็นหนึ่งใน Unseen Thailand ซึ่งในประเทศไทยนั้นมีพระพุทธรูปที่ทรงเครื่องกษัตริย์ที่งดงามแค่สองแห่ง และหนึ่งในนั้นก็คือวัดหน้าพระเมรุนี้ค่ะ
ประตูยันต์โสฬสมงคล
เชื่อกันว่าเมื่อเดินเข้าทา
ประตูยันต์มหาจักพรรดิ์
ฝั่งทางออกจะมียันต์มหาจักพรรดิ์
เมื่อรอดออกมาจากประตูฝั่งท
มงคลจักรวาล
ว่ากันว่าใครก็ตามที่ได้เข้ามาไหว้หลวงพ่อและมายืนตรงจุดนี้ ก็จะได้รับมงคลนั้นไปด้วยค่ะ
พระคันธารราฐ
พระวิหารสรรเพชญ์ ประชาชนเรียกชื่อว่า “พระวิหารคันธารราฐ” หรือเรียกชื่อว่า “พระวิหารเขียน” เนื่องจากมีลายเขียนภายในพระวิหาร หรือมีชื่อเรียกกันอีกว่า “พระวิหารน้อย” เนื่องจากเป็นพระวิหารขนาดเล็ก มีขนาดกว้างประมาณ 6 เมตร ยาวประมาณ 16 เมตรเท่านั้น ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระอุโบสถ ห่างจากพระอุโบสถประมาณ 2 เมตรเศษ พระคันธารราฐ กล่าวกันว่าเดิมเป็นพระพุทธรูปศิลาเขียว แต่เนื่องจากผ่านกาลเวลามานานจึงทำให้กลายเป็นสีเข้มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งปัจจุบันดูคล้ายเป็นสีดำ แต่ถ้ามองดูในระยะใกล้ๆ แล้วจะเห็นเม็ดเล็กๆ สีเขียวเพราะทำจากหินทรายแกะสลัก เชื่อกันว่าหากบูชาสักการะแล้วจะอายุยืนมั่นคงดั่งศิลา
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับความรู้อีกสไตล์ที่ไม่ใช่การ “แนะนำที่เที่ยวอยุธยา” แต่เป็นการคัดเอาความรู้ล้วนๆมาฝากเพื่อนๆกัน หวังว่าคงจะถูกใจกันไม่มากก็น้อยนะคะ ยังไงแอดมินก็ฝากเพื่อนๆติดจามบทความดีๆแบบนี้ไปเรื่อยๆน๊าาา