7 สถานที่เที่ยวอยุธยา ที่ไม่ใช่วัดก็ไปกินไปเที่ยวแบบเพลินๆได้


วันนี้แอดมินจะมา แนะนำที่เที่ยวอยุธยา ที่นอกเหนือจากวัดโบราณสถานต่างๆ เพื่อให้เพื่อนๆได้รู้ว่าจริงๆแล้วก็มีที่เที่ยวอยุธยาในรูปแบบอื่นๆอีกมากมาย  เพื่อให้เพื่อนๆได้ท่องเที่ยวไปในอีกแง่มุมหนึ่ง และเพื่อนๆจะได้รู้ว่าจริงๆแล้วที่เที่ยวอยุธยานั้นมีมากกว่าที่เรารู้จักอีกมากนักค่ะ

ถ้าเอ่ยถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ว แน่นอนเลยค่ะว่าทุกๆท่านจะต้องนึกถึงภาพวัด โบราณสถานต่างๆมาเป็นอันดับแรกเลย และนี่เองค่ะที่เป็นสาเหตุให้อีกหลายคนมองว่า ที่เที่ยวอยุธยา นั้นมีแค่วัดเท่านั้นเองหรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยานี้มีที่เที่ยวเท่านี้จริง ๆ หรือเปล่า ?

ซึ่งในความจริงแล้วนะคะ จังหวัดอยุธยาเรานั้นยังคงมีมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตลาดโบราณ พระราชวังโบราณ พิพิธภัณฑ์ หรือแม้กระทั่งสวนสตอเบอรี่และในวันนี้แอดมินจะมาทำหน้าที่ “แนะนำที่เที่ยวอยุธยา ที่ไม่ใช่วัด” ให้เพื่อนๆได้ไปชิว ไปเที่ยวกันได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นค่ะ เรามาลองมาดูสิว่า นอกจากวัดแล้ว อยุธยามีที่เที่ยวที่ไหนน่าสนใจบ้าง ไปกันเลยค่ะ

1. ไร่สตอเบอรี่เอพี อยุธยา

ซึ่งที่ไร่แห่งนี้ก็ไม่ได้มีดีแค่ ธรรมชาติที่ชวนใฟ้ฟิน ฝุด ๆ เท่านั่นนะจ๊ะ แต่ที่นี่ยังมีมุมให้ถ่ายภาพอีกมากมาย

บ้านฉัน ไร่สตอเบอรี่เอพี อยุธยา บ้านฉัน ไร่สตอเบอรี่เอพี อยุธยา

แอดมินขอบอกเลยว่าคาเฟ่เล็กๆของไร่นี้ มีแต่ของอร่อย ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่า ที่ให้ชีสสสสส เยอะม๊ากกก ดึงทีนี่ยืดดออกมาจนล้านถาดเลยจ้าาา ขนมหวาน ไอศครีมอีกเพียบนะเออ แถมยังมีเครื่องดื่มดับร้อนอีกมากมายไว้คอยบริการนะจ๊ะ

บ้านฉัน ไร่สตอเบอรี่เอพี อยุธยา บ้านฉัน ไร่สตอเบอรี่เอพี อยุธยา

ไร่สตอเบอรี่เอพี อยุธยา ตั้งอยู่ที่ อำเภอ ลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นะจ๊ะ ติดต่อสอบถามเส้นทางได้ที่ 0860569797 เลยจ้า หรือไปที่เฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/apstrawberryayutthaya/

2. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ที่ตำบลประตูชัย ถนนปรีดีพนมยงค์ ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรโบราณวัตถุที่พบจากกรุพระปรางค์ วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2500

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโบราณวัตถุที่พบจากกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2500 มีพระราชปรารภกับรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ และอธิบดีกรมศิลปากรในสมัยนั้นว่า โบราณวัตถุ และศิลปวัตถุที่พบในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะนี้ สมควรจะได้มีพิพิธภัณฑสถานเก็บรักษา และตั้งแสดงให้ประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยานี้ หาควรนำไปเก็บรักษา และตั้งแสดง ณ ที่อื่นไม่ กรมศิลปากรจึงได้สร้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ขึ้นเพื่อเก็บรักษาจัดแสดงโบราณวัตถุที่พบจากกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ และโบราณวัตถุพบในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาคารก่อสร้างด้วยเงินบริจาคจากประชาชน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระนามสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) ผู้ทรงสร้างพระปรางค์วัดราชบูรณะเป็นนามพิพิธภัณฑ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2504

โบราณวัตถุที่สำคัญ อาทิ พระแสงดาบทองคำ ขนาด ยาว 115 ซม. กว้าง 5.5 สมัยอยุธยา ได้จากกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ พระเต้าทักษิโณทกทองคำ ขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.7 ซม. สูง 18.5 ซม. สมัยอยุธยา ได้จากกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ ช้างทรงเครื่องทองคำ ขนาด ยาว 15.5 ซม. สูง 12 ซม. สมัยอยุธยา ได้จากกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะนอกจากนี้จัดแสดงในลักษณะของพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในแหล่งอนุสรณ์สถาน คือ จัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุที่พบในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจากการขุดแต่งบูรณะโบราณสถาน ซึ่งจัดแสดง 3 อาคาร ซึ่งได้จัดแสดง เครื่องปั้นดินเผา และเครื่องถ้วย เงินตรา จัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุที่พบในประเทศไทยตั้งแต่สมัยทวารวดี ศรีวิชัย ลพบุรี เชียงแสน สุโขทัย อู่ทอง อยุธยา รัตนโกสินทร์ เพื่อใช้ในการศึกษาเปรียบเทียบ ฯลฯ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา

การให้บริการ

  1. ให้บริการบรรยายนำชมแก่ สถานศึกษา โรงเรียน สถาบันต่างๆ ทั้งในและนอกสถานที่
  2. ให้บริการจำหน่ายหนังสือ โปสการ์ด สิ่งพิมพ์ และของที่ระลึก เวลาทำการ 9.00-16.30 น.
    เปิดให้เข้าชมทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์

ค่าธรรมเนียม

ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างประเทศ 150 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ถนนโรจนะ พระนครศรีอยุธยา 13000 โทรศัพท์ : 0-3524-1587 แฟกซ์ 0-3524-4570

3. หมู่บ้านญี่ปุ่น

หมู่บ้านญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะเรียน สามารถเดินทางจากวัดพนัญเชิงไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะเห็นอาคารผนวกหมู่บ้านญี่ปุ่นตั้งอยู่ทางด้านขวามือ ในสมัยกรุงศรีอยุธยามีชาวต่างประเทศเข้ามาค้าขายเป็นจำนวนมาก ญี่ปุ่นเป็นชนชาติหนึ่งที่เดินทางเข้ามาในสมัยนั้น ซึ่งที่แห่งนี้จึงน่าสนใจไม่น้อย และรอบบริเวณยังจัดเป็นสวนแบบญี่ปุ่น เพื่อระลึกถึงชาวญี่ปุ่นในสมัยนั้นด้วย โดยบริเวณอาคารผนวกแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 9 ส่วน โดยเริ่มตั้งแต่ ห้องวีดีทัศน์ แผนที่เดินเรือมายังกรุงศรีอยุธยา การนำเสนอให้เห็นถึงความรุ่งเรืองจองพระนครศรีอยุธยา การจัดแสดงและจำลองสินค้านำเข้าและส่งออก ชุมชนชาวต่างชาติและชุมชนชาวญี่ปุ่นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ลำดับเหตุการณ์ความสัมพันธ์ ห้อง E-Book และเรือโบราณจำลอง

สวนญี่ปุ่นแห่งนี้ออกแบบโดยนักออกแบบสวนชาวญี่ปุ่นชื่อ นายฮิโรฮิสะ นาคาจิมา เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงและมีผลงานระดับนานาชาติ รูปแบบเน้นความเป็นสวนญี่ปุ่นแท้ที่ดูสง่างาม สงบ เยือกเย็น มีองค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่ ศาลาญี่ปุ่น สำหรับนั่งชมทัศนียภาพของแม่น้ำเจ้าพระยา สวนญี่ปุ่นแห่งนี้สะท้อนให้เห็นทัศนียภาพของแม่น้ำและทะเลของประเทศญี่ปุ่น ช่วยให้ผู้มาเยี่ยมได้รู้จักวัฒนธรรมญี่ปุ่น ทั้งยังแสดงถึงความปรารถนาให้โลกมีสันติสุข

ศูนย์แห่งนี้เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08. 30-17.00 น. อัตราค่าเข้าชมหมู่บ้านญี่ปุ่น นักเรียน นักศึกษาและเด็ก 7 ขวบขึ้นไป 20 บาท ผู้ใหญ่คนไทยและต่างชาติ 50 บาท นักศึกษาต่างชาติ 50 บาทค่ะ

4. วังช้างอยุธยา แล เพนียด

วังช้างอยุธยา แล เพนียด แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอยุธยาเลยค่ะ บริเวณใกล้ๆกับอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา ซึ่งสถานที่แห่งนี้มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยงได้เล่นกับช้างแสนน่ารักมากมาย มีบริการการถ่ายภาพกับช้าง ค่าบริการเพียงท่านละ 40 บาท หากไปในวันเสาร์อาทิตย์ หรือ วันหยุดนักขัตฤกษ์ จะได้ชมการโชว์ความสามารถของช้างน้อยประกอบกับเสียงดนตรี มีคนพากษ์ และเสริมด้วยกิจกรรมลอดท้องช้าง ให้เป็นสิริมงคลสำหรับผู้มาเยือน เป็นกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นมากกิจกรรมหนึ่ง หากไปวันธรรมดาที่นี่ก็มีบริการขี่ช้างทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น. ราคาประมาณ 100-500 บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลา 15 หรือ 30 นาที

หากเพื่อนๆหรือนักท่องเที่ยวท่านใดสนใจที่จะมาพักค้างคืนเพื่อมาซึมซับกับวิถีชีวิตการเลี้ยงช้างของหมู่บ้านช้างเพนียดหลวง ก็สามารถติดต่อขอพักได้ในโครงการ “ประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่มาเลี้ยงช้างที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา” สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 08-6901-3981 หรือ 08-1821- 7065 นะคะ

5. ตลาดน้ำทุ่งบัวชม

ตลาดน้ำทุ่งบัวชม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่งที่มีแนวคิดผสมผสานระหว่างสมัยเก่า ย้อนยุคกับแนวคิดร่วมสมัย ตั้งอยู่ บนเนื้อที่ทั้งหมด 18 ไร่ ในเขตพื้นที่ของสนับทึบ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ติดถนนพหลโยธินขาออก กม. 78 มุ่งหน้า อำเภอ หนองแค จ .สระบุรี (เลยร้านข้าวแกงบ้านสวน 2 เพียง 1 กม. ติดปั๊ม ปตท.)

ที่เที่ยวอยุธยา ตลาดน้ำทุ่งบัวชม ที่เที่ยวอยุธยา ตลาดน้ำทุ่งบัวชม

ตลาดน้ำทุ่งบัวชม เป็นแหล่งรวมของดีสี่ภาค รวมไปถึงงาน hand made ต่างๆ เช่น ปลาตะเพียนใบลาน ตุ๊กตาชาววัง งอบ บ้านเรือนไทยจำลอง มีดอรัญญิก หม้อดินเผา หินแกะสลัก ผลิตภัณฑ์จากศูนย์ศิลปาชีพบางไทร สินค้า OTOP เครื่องประดับ เครื่องจักรสาน สินค้าหัตถกรรม เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย และสินค้า ต่างๆ อีกจำนวนมาก และในพื้นที่ส่วนต่างๆ ของตลาดมีการนำชื่อสถานที่ที่สำคัญต่างๆ ของจังหวัด และชื่อตำบลทั้งหมดของอำเภอวังน้อย มาตั้งเป็นชื่ออาคาร ได้แก่ อาคารวังน้อย อาคารสนับทึบ อาคารลำตาเสา อาคารบ่อตาโล อาคารลำไทร อาคารข้าวงาม อาคารหันตะเภา อาคารชะแมบ และสุดท้ายคือ อาคารวังจุฬา

ที่เที่ยวอยุธยาตลาดน้ำทุ่งบัวชม ที่เที่ยวอยุธยาตลาดน้ำทุ่งบัวชม ที่เที่ยวอยุธยาตลาดน้ำทุ่งบัวชม

ตลาดน้ำทุ่งบัวชม เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-20.00น.
ดำเนินงานโดย บริษัทพัฒนภูมิเรียลเอสเตท จำกัด 80 หมู่ 2 ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา 13160
ติดต่อสอบถามรายละเอียด สำนักงาน โทร. 035-723-127 ฝ่ายขาย โทร. 08-2021-7999, 08-2021-8999

6. ตลาดเจ้าพรหม ตลาดเก่าแก่ของอยุธยา

ถ้าเอ่ยถึงตลาดศูนย์รวมของกิน ของใช้ ราคาไม่แพงของชาวอยุธยานั้น สถานที่แห่งแรกที่ชาวอยุธยามักจะนึกถึงก็คือตลาดเจ้าพรหมนั่นเองค่ะ เพราะที่ตลาดแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่รวบรวมแหล่งจับจ่ายใช้สอยไว้แทบทุกชนิด ที่ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของกินต่างๆ ผลไม้ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์การเรียนการศึกษา เรียกได้ว่ามีอย่างครบครันเลยทีเดียวค่ะ

ตลาดเจ้าพรหม ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองอยุธยา เป็นแหล่งศูนย์รวมของชาวอยุธยาตามอำเภอต่างๆที่จะมารวมกันอยู่ที่บริเวณนี้เลยค่ะ เพราะนอกจากจะมีตลาดเจ้าพรหรมแล้ว ยังมีท่ารถที่เป็นศูนย์รวมอยู่ในบริเวณใกล้ๆอีกด้วย ไหนจะห้างสรรพสินค้า ธนาคาร ห้างร้านต่างๆ จึงนับได้ว่าที่บริเวณตลาดเจ้าพรหมนี้คือที่นัดพบแหล่งสำคัญอีกหนึ่งแห่งของชาวอยุธยาเชียวนะคะ

7. บ้านของพ่อ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง

“บ้านของพ่อ” ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ณ ทุ่งภูเขาทอง จ.พระนครศรีอยุธยา แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เปิดให้ผู้สนใจเปิดเข้าชมฟรี ที่นี่คือแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่จัดสรรผืนแผ่นดินตามทฤษฎีเกษตรทฤษฎีใหม่และเป็นแหล่งให้ความรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้เด็ก และเยาวชน รวมทั้งประชาชนได้มาศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตแบบพอเพียง

ศูนย์แห่งนี้เกิดขึ้นจากแรงบัลดาลใจในวัยเด็กของ นายอัมรินทร์ เซ็นเสถียร ประธานศูนย์ฯ ที่บ้านอยู่กับธรรมชาติ สามารถหาของกินได้จากสิ่งที่อยู่รอบตัว จึงอยากเติมเต็มชีวิตในวัยเด็ก และอยากเผยแพร่สิ่งดีๆ จึงได้จัดตั้งศูนย์เรียนรู้ฯ แห่งนี้ขึ้นมาบนพื้นที่กว่า 3.5 ไร่ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตแบบพอเพียง การเกษตรและภูมิปัญญาชาวบ้านให้แก่เยาวชน หน่วยงาน และประชาชนทั่วไป โดยไม่แสวงหาผลประโยชน์อื่นใด และเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัด

ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านของพ่อ จ.อยุธยา
ที่อยู่ : หมู่ 2 ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
โทรศัพท์ : 0649321838
เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
พิกัด GPS : 14.3668453,100.5390728
Facebook : https://www.facebook.com/bankongpor/

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับการ “แนะนำที่เที่ยวอยุธยา” ของแอดมินในวันนี้ หวังว่าเพื่อนๆคงจะถูกใจกันไม่มากก็น้อยนะคะ แอดสัญญาค่ะว่าในบทความต่อๆไปแอดจะนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ฝากติดตามบทความของทางเว็บไซต์เราด้วยนะคะ ขอบพระคุณมากๆค่า

แสดงความคิดเห็น