สวัสดีค่าทุกท่าน หยุดยาวสามวันนี้ถ้ายังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี หรืออยากหาที่เที่ยวใกล้ๆกรุง เพราะไม่อยากเดินทางไกลให้เหนื่อย แอดมินอยากจะเชิญชวนมาเที่ยวอยุธยากันค่า
และวันนี้แอดมินจะนำเสนอในคอนเท้นต์ “หยุดยาวสามวันกำแบงค์พันไปอยุธยา” รับรองค่าว่ารีวิวนี้แอดมินจะพาไปเที่ยว ไปกิน ไปชิล ในงบไม่เกิน 1000 บาทแน่นอนค่า
ก่อนอื่นเลยแอดมินจะพาทุกท่าไปเช่ารถจักรยาน รถมอเตอร์ไชต์กันก่อนนะคะ
ร้าน December House(ดีเซมเบอร์เฮ้าส์) เปิดทำการ 07:30 – 18:00
>>เดินทางมาโดยรถตู้ นั่งมาลงสุดทาง ตลาดเจ้าพรหม จากนั้น พิมพ์ในกูเกิลแมพ ได้เลยว่า “ December House “ เดินไม่ไกลประมาน 5 นาทีค่ะ
>>กรณีนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างมาร้าน ให้แจ้งว่า‼️ไปซอยท่าข้ามเรือติดสาธารณสุข
>>เดินทางมาจากสถานีรถไฟอยุธยา.ให้ถามพนักงานบนสถานีว่าซอยท่าข้ามเรือ อยู่ตรงไหน ข้ามเรือมานะค่ะ 5 ฿ ขึ้นจากเรือจะเหนร้านเลย ร้านที่2 สีขาว‼️
Tel : 0854214442 , 0822383138
เอกสารการเช่า >> บัตรประชาชนตัวจริง 1 ใบ ค่ะ
บริการเช่ารถจักรยาน
รายวัน 07:30-18:00 = 50฿
24 ชั่วโมง (ค้างคืน) = 80฿
บริการเช่ารถมอเตอร์ไซค์
รายวัน 07:30-18:00 = 200฿ / 24 ชั่วโมง (ค้างคืน) = 300฿
**การเติมน้ำมัน ตอนเช่าครั้งแรกน้ำมันมีให้เต็มถัง ตอนส่งรถคืนน้ำมันต้องเติมคืนให้เต็มถังเท่าเดิมนะคะ
เมื่อได้รถเช่ากันแล้วคราวนี้ออกเดินทางกันค่า อ่อแต่ก่อนจะไปเช็คอินตามวัดแอดขอบอกก่อนนะคะว่าบางวัดนั้นมีค่าเข้าสถานที่ 10 บาทจ้า
เราจะมาเริ่มกันด้วยการไปกราบนมัสการพระคู่บ้านคู่เมืองอยุธยา ที่วิหารหลวงพ่อมงคลบพิตร กันก่อนเลยค่ะ
เมื่อกราบหลวงพ่อเสร็จแล้ว ก็ไปต่อกันที่วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดที่มีเจดีย์สามองค์แลนด์มาร์คสำคัญของอยุธยา อยู่ติดกับวิหารหลวงพ่อเลยค่า
วัดพระศรีสรรเพชญ์ หรือ วัดพระศรีสรรเพชญ เป็นอดีตวัดหลวงประจำพระราชวังโบราณ อยุธยา ตั้งอยู่ที่ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทางทิศเหนือของวิหารพระมงคลบพิตรในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา[1] สร้างชึ้นราวปี พ.ศ. 2035 โดยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
วัดพระศรีสรรเพชญ์ มีจุดที่น่าสนใจที่สำคัญคือเจดีย์ทรงลังกา จำนวนสามองค์ที่วางตัวเรียงยาวตลอดทิศตะวันออกและทิศตะวันตก สร้างขึ้นเป็นองค์แรกทางฝั่งตะวันออก เมื่อปี พ.ศ. 2035 โดยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 เพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (พระราชบิดา) ต่อมาในปี พ.ศ. 2042 ก็ทรงให้สร้างเจดีย์องค์ต่อมา (องค์กลาง) ของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 (พระเชษฐาต่างพระมารดาของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2)[2] และเจดีย์ฝั่งตะวันตกของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 และในรัชสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 ก็ทรงสร้างเจดีย์อีกองค์ในฝั่งทิศตะวันตกให้ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 พระราชบิดา รวมเป็นสามองค์ตามปัจจุบัน
วัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดประจำวังที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา แตกต่างจากวัดมหาธาตุ สุโขทัย ที่มีพระสงฆ์จำพรรษา จึงกลายเป็นต้นแบบของ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ในเวลาต่อมา
เมื่อเที่ยวชมวัดพระศรีสรรเพชญ์จนรอบแล้ว เราไปต่อกันที่วัดพระรามเลยค่ะ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลมาก อยู่ตรงข้ามวัดพระศรีสรรเพชญ์นั่นแหละค่ะ
วัดพระราม เป็นวัดที่ตั้งอยู่นอกเขต พระราชวัง ทางด้านทิศตะวันออก ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา (กรุงเก่า) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตรงข้ามกับวิหารพระมงคลบพิตร วัดพระราม คาดว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1912 ในรัชสมัยสมเด็จพระราเมศวร ซึ่งเป็นบริเวณที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) พระราชบิดา แต่พระองค์ทรงครองราชย์ได้เพียงแค่ปีเดียว จึงเข้าใจกันว่าสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 ทรงได้ช่วยสร้างจนสำเร็จหรืออาจสร้างเสร็จเมื่อสมเด็จพระราเมศวรเสวยราชย์ครั้งที่ 2 ก็เป็นไปได้
บริเวณหน้าวัดพระรามคือ บึงพระราม ปัจจุบันซากปรักหักพังภายในวัดเหลือเพียงแต่ เสาในพระอุโบสถ วิหาร 7 หลัง กำแพงด้านหนึ่ง และที่สำคัญคือพระปรางค์ ซึ่งเป็นพระปรางค์ทรงขอมโบราณขนาดใหญ่ ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังทั้งสองด้าน เป็นภาพพระพุทธเจ้าประทับนั่งปางมารวิชัยบนบัลลังก์ สีที่ใช้เป็นสีแดง คราม เหลืองและดำ เป็นภาพจิตรกรรมยุคอยุธยาตอนต้น ปัจจุบันลบเลือนไปมาก
ออกจากวัดพระรามแล้วเราไปต่อกันที่วัดมหาธาตุ ซึ่งก็ไม่ห่างจากวัดมหาธาตุเลยค่ะ อยู่ในบริเวณบึงพระรามนั่นแหละค่ะ
วัดมหาธาตุเป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่ใกล้วัดราชบูรณะ ในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา สร้างในสมัย สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 ขุนหลวงพะงั่ว เมื่อปี พ.ศ. 1917 แต่ไม่แล้วเสร็จ ทรงเสด็จสวรรคตเสียก่อน และได้สร้างเพิ่มเติมจนเสร็จ ในสมัย สมเด็จพระราเมศวร โดยได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระปรางค์ประธาน และอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ใต้ฐานพระปรางค์ประธานของวัดมหาธาตุ เมื่อปี พ.ศ.1927
ความสำคัญของวัดมหาธาตุนั้น นอกจากจะเป็นที่ประดิษฐานองค์พระบรมสารีริกธาตุแล้ว ยังถือเป็นวัดที่เป็นศูนย์กลางเมืองและเป็นสถานที่จัดพระราชพิธีต่าง ๆ ของกรุงศรีอยุธยา โดยมีสมเด็จพระสังฆราช ฝ่ายคามวาสีประทับอยู่ภายในวัด ส่วนพระสังฆราช ฝ่ายอรัญวาสีนั้น ประทับอยู่ที่วัดป่าแก้ว (วัดใหญ่ชัยมงคล) นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ ๆ พระศรีศิลป์และจหมื่นศรีสรรักษ์ พร้อมคณะได้ซุ่มพลที่ปรางค์วัดมหาธาตุ ก่อนยกพลเข้าพระราชวังทางประตูมงคลสุนทร เพื่อจับกุมสมเด็จพระศรีเสาวภาคย์
ในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ปรางค์ของวัดองค์เดิมที่สร้างด้วยศิลาแลง ยอดพระปรางค์ได้ทลายลงมาเกือบครึ่งองค์ถึงชั้นครุฑ แต่จะด้วยเหตุผลประการใดไม่ทราบ จึงยังมิได้ซ่อมแซมให้คืนดีดังเดิมในรัชกาลนั้น ต่อมาสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ทรงบูรณะใหม่รวมเป็นความสูง 25 วา เมื่อปี พ.ศ. 2176 และในสมัยสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ เมื่อปี พ.ศ. 2275 – 2301 จนถึงช่วงเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่2 วัดมหาธาตุโดนทำลายจนเหลือเพียงซากปรักหักพังและถูกทิ้งร้าง ต่อมายอดพระปรางค์ได้พังทลายลงมาอีกครั้งในรัชสมัยรัชกาลที่ 5
เที่ยวมาเหนื่อยๆเรามาหาก๋วยเตี๋ยวเรืออร่อยๆทานกันดีกว่าค่ะ พิกัดก็ไม่ไกลอีกเช่นเดิมค่ะ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือป้าเล็กตั้งอยู่หน้าบริเวณวัดมหาธาตุนั่นเองค่ะ
ก๋วยเตี๋ยวเรือป้าเล็กขายอยู่ที่ชามละ 15 บาท ถ้ากินแบบอิ่มจุกๆเลยจะประมาณ 3-4 ชามค่ะ ก็จะตกราวๆ ไม่เกิน 60 บาท น้ำอีกประมาณ 10 บาท มื้อนี้รวมคร่าวๆประมาณ 70 บาทจ้า ฟินไปอีก และถ้ายังไม่อิ่มตบท้ายด้วยกล้วยทอดหน้าร้่นก๋วยเตี๋ยวนั้นได้เลยนะคะ ถุงละ 20 บาทจ้า
เราเติมพลังกันแล้ว ตอนนี้มาลองนั่งคำนวนกันก่อนค่ะ ค่าเช่ารถ 50 บาท ค่าเข้าวัดพระศรีสรรเพชญ์ /วัดพระราม /วัดมหาธาตุ 3 วัดรวม 30 บาท ทานก๋วยเตี๋ยวอีกประมาณ 70 บาท รวมคร่าวๆตอนนี้เราหมดไปประมาณ 150 บาท จ้าาา ไปค่ะเราไปต่อกันเลยค่ะ คราวนี้เราจะไปกันที่วัดราชบูรณะ ถัดจากวัดมหาธาตุนั่นแหละค่ะ ที่นี่ก็เสียค่าเข้า 10 บาทเช่นกันค่า
วัดราชบูรณะ ตั้งอยู่ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริเวณเชิงสะพานป่าถ่าน ติดกับวัดมหาธาตุทางบริเวณทิศตะวันออก ห่างจากพระราชวังโบราณ เพียงเล็กน้อย[1] จัดเป็นหนึ่งในวัดที่ใหญ่และมีความเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือเจ้าสามพระยา ในปี พ.ศ. 1967[2] วัดราชบูรณะมีชื่อเสียงและความโด่งดังมากในเรื่องการถูกกลุ่มคนร้ายจำนวนหนึ่ง ลักลอบขุดกรุภายในพระปรางค์ประธาน ในปี พ.ศ. 2499 และลักขโมยทรัพย์สมบัติจำนวนมากมายมหาศาลหลบหนีไป ต่อมากรมศิลปากรเข้าทำการบูรณะขุดแต่งต่อภายหลัง พบทรัพย์สมบัติที่หลงเหลือและเครื่องทองจำนวนมากมาย ปัจจุบันทรัพย์สมบัติภายในกรุถูกเก็บรักษาไว้ที่ห้องราชบูรณะ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา
รอบนี้แอดมินพาเที่ยวเจาะสถานที่แลนด์มาร์ค โซนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเลยนะคะ
สรุปคร่าวๆเรามีเงินมาเที่ยวครั้งนี้ 1000 บาท เราใช้ไปทั้งหมด
ค่าเช่ารถ 50 บาท ค่าเข้าวัดพระศรีสรรเพชญ์ /วัดพระราม /วัดมหาธาตุ /วัดราชบูรณะ รวมแล้ว 4 วัด เราจะเสียค่าเข้ารวม 40 บาท ค่าก๋วยเตี๋ยว 70 ค่ากล้วยทอด 20 รวมแล้วเราใช้เงินไป 180 บาทจ้า และที่สำคัญเราไปแวะซื้อโรตีสายไหมบริเวณถนนหน้าโรงพยาบาลอยุธยาเพื่อนำกลับไปฝากคนที่บ้านได้อีกน๊าาาา
เห็นไหมคะ เที่ยววันหยุดแบบชิลๆ หยุดยาวสามวัน พกแบงค์พันไปอยุธยายังเหลือจ้าาา